
เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน เป็นชื่อที่หลายๆคนคุ้นหูกันเลยใช่ไหมล่ะ สำหรับสาวกของภาพยนตร์เรื่อง Pirate of The Caribbean ที่มีการนำชื่อเรือนี้ไปใช้ประกอบการแสดงด้วย ซึ่งเรื่องเรือนี้ไม่ใช่เรือทั่วไปที่เราพบเห็นได้แบบปกติ เพราะมีตำนานจากเหล่าชาวประมงเล่าขานสืบต่อกันมา ว่าเรือนี้เป็นเรือสิง ที่มีทั้งผีกัปตันและผีลูกเรือล่องเรือไปเรื่อยๆทั่วท้องทะเล โดยที่ไม่สามารถขึ้นฝั่งเพื่อกลับมาได้ ความน่ากลัวนี้เกิดจากอะไร และทำไม่ถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ได้ เราจะมาติดตามพร้อมกัน เชื่อว่าคนที่มีความชื่นชอบเรื่องเรือและการล่องเรือต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน ปริศนาหินเดินได้
จุดเริ่มต้นของ เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มีการบันทึกเอาไว้ในรูปแบบเอกสารเมื่อปี คริสต์สตวรรษที่ 17 และยังมีการรายงานว่ามีคนพบเห็นมาจนถึงปีคริสต์สตวรรษที่ 20 โดยมีสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อ ค.ศ. 1880 ได้พบเห็นเรือลำนี้อยู่ ซึ่งเรื่องราวนั้นได้เริ่มขึ้นจากกับตันของเรือลำนี้ ซึ่งเขามีชื่อว่า กัปตันชาวดัตช์ ชื่อ ฟาน เดอร์ เดกเคน ต้องการที่จะนำเรือเดินทางข้ามไปยังอัมสเตอร์ดัม และได้พาลูกเรือของเขาล่องเรือไปตามเป้าหมายที่ต้องการจะเดินทางไป โดยที่ไม่มีใครบนเรือทราบเลยว่าหลังจากที่ล่องเรือไปนั้น พวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง และในขณะอยู่ระหว่างการเดินเรือขากลับมา ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะว่าเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ได้เจอกับสภาพอากาศที่เรียกได้ว่าเลวร้ายสุดๆ ที่บริเวณแหลมกู้ดโฮป ในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งกับตันได้พยายามนำเรือฝ่าออกมาจากจากพายุที่เกิดขึ้น
โดยที่ในระหว่างที่พยายามบังคับเรือให้ออกมาจากพายุที่แสนร้ายกาจนั้น เขาถูกผู้คนบนเรือหลายฝ่ายที่คัดค้านความคิดของเขา ที่จะนำเรือฝ่าออกจากพายุนี้ จนทำให้เกิดเรือชนกับโขดหิน จนเป็นเหตุทำให้เรือของเขาใกล้จะล่มลงสู่ทะเล และตัวกัปตันเองก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด ยังคงดื้อดึงที่จะเรือฝ่าออกมาให้ได้ โดยที่เขาได้พูดคำหยาบต่างๆและพ่นคำสบถต่อว่าสวรรค์ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ และทุกคนเชื่อไหมว่านี่คือสาเหตุที่เขาถูกสวรรค์ลงโทษอย่างหนัก ด้วยการโดนคำสาปของทำให้ต้องกลายเป็นผีที่เฝ้าเรือนี้เพื่อเดินทางไปทั่วท้องทะเล ชั่วกัปชั่วกัลป์ พร้อมกับลูกเรือผีที่อยู่บนเรือทั้งหมดของเขา โดยที่ไม่สามารถหลุดพ้นออกจากเหตุการณ์นี้ได้ และหากมีใครพบเห็นเรือลำนี้ จะสร้างความเลวร้าย และทำให้คนที่เห็นพบกับหายนะ

เรื่องราวที่ทำให้เรืองต้องจมสู่ทะเลไป กลายเป็นเรือปีศาจ
ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของเรือปีศาจ ที่ต้องจ่มดิ่งลงสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ซึ่งมีกับตันผี คอยคุมเรือกับลูกเรือผีทั้งหมด ออกเดินทางไปเรื่อยๆโดยที่พวกเขาไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ และเป็นอยู่อย่างนี้จนกว่าจะถึงวันสิ้นโลก และเรื่องราวเหล่านี้ก็ต่างสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก เพราะว่าการพบเห็นนั้นไม่ได้ปกติทั่วไป จะมาทั้งภาพของกัปตันที่แต่งชุดสมัยเก่า ยืนคุมลูกเรือให้บังคับเรือตามคำสั่ง และมีเสียงร้องโหยหวนของผีบนเรือมากมาย ที่ส่งสัญญาณและขอความช่วยเหลือ จากผู้พบเห็นด้วยเสียอันน่ากลัวสร้างความขนลุก และหลอกหลอนทุกคนที่ได้เจอเรือลำนี้
โดยทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของเรือปีศาจ ที่ถูกนำมาเล่นขานจนเป็นตำนานให้คนที่ล่องเรือต้องแอบเสียวสันหลังอยู่ไม่น้อย เมื่อต้องล่องเรือไปบริเวณแหลมกู้ดโฮป ซึ่งเป็นสถานที่เรือลำนี้ ได้รับการบันทึกว่ามีการปรากฏตัวออกมาบ่อยที่สุด แต่ทั้งหมดนี้ก็คงเป็นเป็นตำนานที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์อธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน นั่นก็คือเป็นปรากฏการณ์ทางแสงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ใช่การพบเห็นเรือจริงๆ หรือที่เรียกว่า มิราจ /ฟาตา มอร์กานา ที่ทำให้เกิดการหักเหของแสง บวกกับการสะท้อนแสงบนท้องทะเลนั่นเอง ไม่ได้เป็นอย่างที่ตำนานเล่นมา แต่การที่เราฟังแล้วเลือกที่จะเชื่อ หรือเลือกที่จะเข้าใจตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ก็สามารทำได้ทั้งสองแบบ เพราะข้อมูลทั้งหมดนี้ต่างน่าเชื่อถือด้วยกันทั้งคู่
เครดิต : themysteriousth.com
ติดตามเรื่องลี้ลับ : @UFA365