เพื่อนร่วมห้อง : เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมต้อนมัธยมปลาย
เรื่องราวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีกว่าที่แล้วมันเป็นเรื่องสยองของประสบการณ์ของเราแถมยังเคยเป็นข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์อีกด้วย เรื่องเล่าสยอง
เรื่องก็คือว่าเพื่อนสนิทร่วมห้องของเราเขาได้จมน้ำตายพร้อมกัน 2 คนตอนนั้นเราก็เกือบไปเล่นน้ำกับเขาด้วยแต่บังเอิญว่าวันนั้นต้องขนของย้ายบ้านช่วยแม่พอประมาณช่วงเย็นประมาณ 18:00 น เราก็โทรมาหาด้วยเสียงสะอื้นว่าเพื่อนเราสองคนได้จมน้ำไปแล้ว
พอวันต่อมาเราก็รีบตื่นเช้าไปโรงเรียนเพราะด้วยความอยากรู้ว่าเพื่อนของเรามันตายได้ยังไงคนในห้องเรียนของเราร้องไห้โฮรวมทั้งเราด้วยเพราะ 2 คนที่ตายไปนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในห้องปกครองแล้วเราไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงไวขนาดนี้พอหลังจากพักเที่ยงอาจารย์ก็ได้นิมนต์พระมาที่โรงเรียน ขอเล่าก่อนว่าก่อนจะขึ้นเรียนภาคบ่ายจะมีการนั่งสมาธิบรรยากาศตอนนั้นช่างเงียบเหลือเกิน
สักพักหลวงปู่ก็พูดขึ้นมาว่า มาหาเพื่อนหรือโยง
วินาทีนั้นที่เรานั่งสมาธิอยู่เราพยายามที่จะไม่ลืมตาเพราะกิจกรรมนี้เป็นการนั่งสมาธิก่อนเข้าห้องเรียนช่วงบ่ายของทุกๆวันและก็จะมีครูคนนึงมานั่งเฝ้าเราเลยไม่กล้าที่จะลืมตามาดูเลยตอนนั้น
หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ได้พูดขึ้นมาอีกว่า ไม่ต้องร้องไห้หรอกโยมเพื่อนทุกคนก็ต่างก็รักยมทั้งนั้น
แต่ด้วยความที่เราอดทนไม่ไหวเราก็ได้ลืมตาขึ้นมาหลวงปู่พูดอะไรอยู่กับใคร เราก็ได้แต่งงว่าทำไมหลวงปู่ยืนพูดกับพื้นที่ว่างเปล่าข้างๆเรา ตอนนั้นหลวงปู่ได้มองมาที่เราได้เห็นเราลืมตาพอดี หลวงปู่จะพูดขึ้นมาว่า ไม่เป็นไรหรอกโยมเพื่อนโยมเขาแค่อยากมาหา พอได้ยินที่หลวงปู่พูดขึ้นมานั้นก็ทำให้เราขนลุกขึ้นมาทันที
พอเลิกเรียนเพื่อนห้องเราและรวมถึงตัวเราด้วยก็เลยพากันไปที่งานศพ เราจะยกนามสมมุติของสองคนนั้นว่า อากับโอ พวกเราได้ไปที่งานศพของอาก่อน ทั้งหมดเป็นไปด้วยความปกติ แต่พอเราไปงานศพโอทุกคนก็ต้องตกใจเพราะมีน้ำคล้ายๆคราบน้ำตาไหลออกมาจากกรอบรูปเพื่อนในห้องเราสลับกันเช็ดรูปนั้นมันก็ไม่หยุดไหล
พอจะเริ่มมืดพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านบ้านของผมอยู่ไกลมากเราได้กลับกับเพื่อนอีก 3 คนพวกเราทั้งหมดนั่งสองแถวกลับกันและนั่งฝั่งเดียวกัน แต่ผู้โดยสารที่ร่วมรถไปกับเรานั่นสิมองเราแบบแปลกๆ จะมีผู้โดยสารร่วมทางคนนึงทักเราขึ้นมาว่า เพื่อนไม่สบายหรอหนู พวกเราก็ทำหน้างงๆแล้วก็เงียบกันไป ป้าแก่แล้วพูดขึ้นมาว่า อ้าวหนูคนนะไม่ใช่เพื่อนหนูหรอ แล้วก็หันหน้าหนีไป
เช้าวันต่อมาผมก็เอาเรื่องรถบนรถสองแถวไปบอกครู ครูก็ได้บอกว่าคงเป็นเพราะเพื่อนทั้งสองคนยังไม่รู้ว่าตัวเองตาย พอได้ยินเท่านั้นแหละพวกเราก็ปาดน้ำตากันทันทีเลยด้วยเพราะความสงสารเพื่อน
ยังมีหลายคนมาเล่าให้เราฟังว่าเห็นเพื่อนทั้งสองนั้นอยู่ในห้องสมุดบ้างห้องน้ำบ้างขนาดคนขับรถสองแถวที่เรารู้จักยังบอกเลยว่าเคยเห็นโอกับอา เดินขึ้นมาบนรถสองแถว แต่พอได้ยินเสียงกดกริ่งก็ไม่เห็นมีใครอยู่บนรถเลย
จนเรามาเจอกับตัวเองในวันนั้น ด้วยความที่บ้านเราไกลและต้องช่วยแม่ทำงานเลยไม่ได้ไปงานศพของเพื่อนทั้งสองตอนนั้นเวลาประมาณ 20:00 น ผมอยู่บ้านเพียงคนเดียว อาบน้ำอยู่หน้าบ้านผมติดกับสวนหลังบ้านต้นไม้จะเยอะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงต้นไม้สั่นฉันไม่มีพายุเข้าแต่ไม่ได้สั่นทั้งสวนฉันเพียงแค่ต้นสองต้นตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่ลมพัดเลยไม่ได้สนใจอะไรแต่มันเริ่มดำเหมือนจะหักให้ได้เราเลยต้องดูที่ช่องลมภาพที่เราเห็นคือเพื่อนสองคนอยู่ในสภาพบวมน้ำยืนอยู่ข้างต้นไม้พร้อมกับเสียงที่พูดว่าทำไมไม่ไปงานศพกู หลังจากนั้นเราก็เห็นมาเลยเรื่อยๆแต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สุดของเราแล้ว เดอะช๊อค